ถ้าคุณอยากมีเพิ่มรายได้จากคอนเทนต์ออนไลน์ของตัวเองให้มากกว่านี้ กลยุทธ์การทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการก็เป็นไอเดียที่เข้าท่านะ
Amazon มีหนึ่งในโปรแกรมการทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมที่สุด โดยมีส่วนแบ่งตลาดถึง เกือบครึ่ง หนึ่งของตลาดตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการทั้งหมด ด้วยตัวแทนที่เป็นพาร์ตเนอร์กว่า 900,000 ราย โปรแกรม Amazon Associates ช่วยให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์ สื่อ และบล็อกเกอร์ สามารถสร้างรายได้จากยอดการเข้าชมเว็บไซต์ของตนได้
งานวิจัยต่างๆ ชี้ให้เห็นว่า Amazon นั้นเป็นจุดหมายปลายทางแรกที่นักช้อปส่วนใหญ่มุ่งหน้าไป ดังนั้นในเมื่อ Amazon เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ การส่งต่อผู้เข้าชมคอนเทนต์ไปยังหน้าผลิตภัณฑ์ใน Amazon จึงอาจเพิ่มอัตราคอนเวอร์ชันได้
มาดูวิธีการก้าวเข้ามาเป็น Amazon Associate พร้อมสำรวจเคล็ดลับ ขั้นตอน และตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงกันเลย
โปรแกรม Amazon Associates คืออะไร
โปรแกรม Amazon Associates เป็นหนึ่งในโปรแกรม การทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ให้ครีเอเตอร์ สื่อ และบล็อกเกอร์ สามารถสร้างรายได้จากยอดเข้าชมเว็บไซต์โดยการโปรโมทผลิตภัณฑ์ในคอนเทนต์ของตนเช่นเดียวกับ Shopify Affiliate Program นั่นเอง
หลังจากที่คุณได้รับการตอบรับเข้าร่วมโปรแกรม Amazon Associates ฟรีแล้ว คุณจะสามารถสร้าง ลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการเพื่อโปรโมทให้กับผู้ชมของคุณได้ เมื่อมีคนคลิกลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการนั้น แล้วซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว คุณจะได้รับค่าคอมมิชชัน
ค่าคอมมิชชันของ Amazon อยู่ระหว่าง 1% ถึง 20% ขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์
Amazon มีข้อกำหนดเกี่ยวกับวิธีการโปรโมทลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการอยู่ไม่มาก ซึ่งก็หมายความว่าครีเอเตอร์และธุรกิจหลากประเภทนั้นสามารถเข้ามาร่วมในโปรแกรมนี้ได้ ผู้ที่เป็น Amazon Associate นั้นก็มีทั้ง YouTubers บล็อกเกอร์ อินฟลูเอ็นเซอร์ใน TikTok รวมถึงร้านค้าออนไลน์ และเว็บไซต์รีวิวผลิตภัณฑ์ด้วย
ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ Amazon ทำเงินได้เท่าไหร่
รายได้จาก Amazon Affiliate Program ขึ้นอยู่กับอัตราค่าคอมมิชชันของผลิตภัณฑ์ที่ตัวแทนเลือกโปรโมท และจำนวนคลิกที่ตัวแทนสร้างจากยอดการเข้าชมที่เกี่ยวข้อง
นั่นหมายความว่าตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการของ Amazon อาจทำรายเงินได้เพียงหลักพันบาทต่อเดือน หรือมากถึง 6 หลักต่อปีก็ได้
Hugo Guerreiro ผู้ก่อตั้งย The Men Hero เว็บไซต์แฟชั่นสำหับผู้ชาย เปิดเผยรายได้ในช่วงแรกๆ ของเขาเอาไว้ว่า
“ผมเริ่มทำบล็อกเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์สำหรับผู้ชายช่วงปลายเมษายน 2021 พอมาถึงเดือนพฤศจิกายน ผมก็ทำเงินได้ประมาณ 35,000 บาทจาก Amazon Associates และตัวเลขนี้ก็จะยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ”
จากข้อมูลที่ ZipRecruiter รายงาน รายได้โดยเฉลี่ยของตัวแทน Amazon ในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านบาทต่อปี กลุ่มบนๆ ของยอดพีระมิดนั้นทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 4.4 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มฐานล่างสุด 13% แรกนั้นทำเงินได้ประมาณ 1.2 ถึง 1.5 ล้านบาท
หากคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มรายได้จากการเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการโดยไม่ต้องทำยอดขายมากนัก ก็ลองเข้าร่วมโปรแกรมตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการที่มีราคาสูงดู
ข้อกำหนดของAmazon Affiliate Program
ในการเป็นตัวแทนในโปรแกรม Amazon Associates คุณต้องปฏิบัติตามกฎและข้อกำหนดของโปรแกรม หลักเกณฑ์ในการเข้าร่วมหลัก ๆ มีระบุเอาไว้ใน นโยบายโปรแกรมของ Amazon ซึ่งมีข้อห้ามต่างๆ อาทิ ห้ามขโมยคอนเทนต์ หรือโฆษณาในเว็บไซต์ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและเยาวชน
เมื่อคุณลงทะเบียนแล้ว Amazon จะตรวจสอบสิ่งที่คุณทำในช่วงแรกๆ และอาจปฏิเสธบัญชีของคุณหากคุณไม่ปฏิบัติตาม มาตรฐานการดำเนินงาน
Amazon กำหนดให้ช่องของคุณต้องนำเสนอคอนเทนต์ที่ทันสมัยและไม่ได้ลอกใครมา รวมถึงต้องมียอดการเข้าชมในระดับหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าช่องของคุณมีความมั่นคงและสามารถสร้างยอดขายได้
มาดูข้อกำหนดที่คุณควรใส่ใจกัน
- เว็บไซต์ ต้องเป็นสาธารณะและมีโพสต์ที่ไม่เหมือนใคร มีความถูกต้องแม่นยำ และทันสมัย 10 โพสต์ซึ่งเผยแพร่ภายใน 60 วันที่ผ่านมา
- แอปมือถือ ต้องสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีใน Google Play, App Store ของ Apple และ Amazon
- ช่องโซเชียลมีเดียที่รองรับ ได้แก่ Facebook, Instagram, Twitter, YouTube, TikTok และ Twitch โดยต้องมีผู้ติดตามอย่างน้อย 500 คน
นอกจากนี้ คุณต้องทำยอดขายที่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างน้อย 3 รายการภายใน 180 วันแรกในฐานะตัวแทน แม้ว่า Amazon จะไม่ระบุเงื่อนไขการปฏิบัติงานเพิ่มเติมจากนี้ แต่การมีส่วนร่วมที่กระตือรือร้น เช่น คลิก ไลก์ และแชร์ อาจช่วยเสริมการสมัครของคุณให้มีโอกาสผ่านมากขึ้นได้
สาเหตุทั่วไปที่ทำให้การสมัครถูกปฏิเสธ
หากการสมัครของคุณไม่ผ่านในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง อาจเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งต่อไปนี้
- มียอดขายผ่านเกณฑ์ที่กำหนดน้อยกว่า 3 รายการในช่วง 180 วันแรก
- คอนเทนต์เป็นตัวของตัวเองไม่พอ ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับ "ประสบการณ์หรือข้อมูลเชิงลึกที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น"
- การใช้งานลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการไม่ถูกต้อง
- คอนเทนต์หรือแนวปฏิบัติไม่เป็นไปตามข้อกำหนด
วิธีการเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการของ Amazon
- ไปที่ศูนย์ Amazon Associates และคลิกปุ่ม “Sign up”
- กรอกข้อมูลของคุณ
- เพิ่มเว็บไซต์ แอปมือถือ หรือช่อง YouTube ของคุณ
- ตั้งค่าโปรไฟล์ของคุณ
- อธิบายวิธีการนำผู้ชมไปยังเว็บไซต์หรือแอป
- เพิ่มข้อมูลภาษีและการชำระเงินของคุณ
- สร้างลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการ Amazon
- เชื่อมต่อกับ Shopify โดยใช้แอป Connector
เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากการลงทะเบียน การเข้าร่วม Amazon Affiliate Program จึงไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ก่อนที่คุณจะไปที่ Amazon คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า เว็บไซต์หรือช่องคอนเทนต์ของคุณนั้นเปิดใช้งาน เป็นสาธารณะ และมีคอนเทนต์ปล่อยมาก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นคุณจึงค่อยสมัครบัญชี Amazon Associates
1. ไปที่ศูนย์ Amazon Associates และคลิกปุ่ม “Sign up”
ในการเริ่มต้นกระบวนการลงทะเบียน Amazon Affiliate Program คุณจะต้องเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Amazon ที่มีอยู่เดิม หรือสร้างบัญชีใหม่ หากคุณมีบัญชีส่วนตัวเพียงบัญชีเดียว การสร้างบัญชีใหม่เพื่อแยกธุรกิจจะดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม หากคุณมีหมายเลขโทรศัพท์ที่เชื่อมโยงกับบัญชีส่วนตัวของคุณ (และไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ธุรกิจ) คุณจะไม่สามารถสร้างบัญชีใหม่ได้
2. กรอกข้อมูลของคุณ
ขั้นตอนต่อไป ให้คุณกรอกข้อมูลส่วนตัวและรายละเอียดเกี่ยวกับช่องตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการของคุณ เพื่อที่ Amazon จะสามารถติดตามและจ่ายเงินให้คุณได้
3. เพิ่มเว็บไซต์ แอปมือถือ หรือช่อง YouTube ของคุณ
คุณสามารถเพิ่มเว็บไซต์หรือแอปมือถือได้สูงสุด 50 เว็บหรือแอป ถ้าคุณมีช่องทางในโลกดิจิทัลมากกว่า 1 แห่ง คุณก็สามารถใส่ทั้งหมดลงไปได้เลย เพราะนั่นแหละคือที่ที่คุณจะเอาลิงก์ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการไปใส่
เมื่อคุณเพิ่มเว็บไซต์และกดปุ่ม ‘Next’ ระบบจะถามว่าเว็บไซต์หรือแอปของคุณมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 13 ปีหรือไม่ (เว็บไซต์เหล่านี้ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมโปรแกรม)
4. ตั้งค่าโปรไฟล์ของคุณ
ในส่วนนี้จะมีการขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณและอนุญาตให้คุณสร้าง Store ID ซึ่งเป็นรหัสเฉพาะตัวของคุณ ที่เอาไว้ใช้จะเชื่อมโยงบัญชีของคุณกับยอดขายที่เกิดจากลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการของคุณ
5. อธิบายวิธีการขับเคลื่อนยอดเข้าชมไปยังเว็บไซต์หรือแอปของคุณ
ขั้นตอนต่อไปในการตั้งค่าบัญชีตัวแทน Amazon จะให้คุณอธิบายวิธีการขับเคลื่อนยอดเข้าชมไปยังเว็บไซต์ของคุณ (คุณสามารถเลือกได้มากกว่า 1 ตัวเลือก)
คุณจะต้องอธิบายเว็บไซต์หรือแอปของคุณทำเงินได้จากช่องทางไหนในปัจจุบัน คุณใส่ลิงก์ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการอย่างไร จำนวนผู้เข้าชมที่ไม่ซ้ำกันมีทั้งหมดเท่าไหร่ และทำไมคุณจึงต้องการเข้าร่วมโปรแกรมนี้
หลังจากนั้น คุณจะต้องกรอก CAPTCHA เพื่อความปลอดภัยและยอมรับข้อตกลงในการดำเนินงาน
6. เพิ่มข้อมูลภาษีและการชำระเงินของคุณ
เมื่อคุณกรอกใบสมัครเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบบจะขอให้คุณระบุข้อมูลการชำระเงินและภาษีของคุณสำหรับใช้รับรายได้
ในฐานะ Amazon Associate คุณมีตัวเลือกในการรับเงินได้หลายช่องทาง ทั้งการโอนเข้าบัญชีโดยตรง บัตรของขวัญ Amazon หรือเช็ค ระบบจะจ่ายเงินทุกเดือน แต่จะออกใน 60 วันหลังจากสิ้นเดือนที่มีการสร้างรายได้ ดังนั้น รายได้ที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคมจะถูกจ่ายในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้ คุณก็จะสามารถใช้ Associates Central เพื่อสร้างลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการได้แล้ว
7. สร้างลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการ Amazon ของคุณ
เมื่อคุณได้รับการตอบรับเข้าร่วมโปรแกรม Amazon Associates แล้ว คุณก็สามารถเริ่มสร้างลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการเพื่อนำไปใช้ในเนื้อหาและรับค่าคอมมิชชันได้
อันดับแรก คุณต้องลงชื่อเข้าใช้บัญชี Associate ของคุณ เพื่อให้ลิงก์ทั้งหมดที่สร้างจะถูกติดแท็กด้วย Associate ID ของคุณ
จากนั้น ให้ไปที่เมนูการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ในแดชบอร์ดของ Associates Central ที่นี่คุณสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ Amazon และสร้างลิงก์แบบกำหนดเองซึ่งมี Associate ID ของคุณ รวมถึง ID การติดตามที่สามารถจะเลือกใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ เพื่อให้คุณสามารถติดตามได้ว่าลิงก์ใดของคุณพายอดเข้าชมมาได้มากที่สุด
อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้สองเครื่องมือนี้เพื่อสร้างลิงก์อย่างรวดเร็วจากอุปกรณ์ใดก็ได้ ดังนี้
SiteStripe toolbar (สำหรับเดสก์ท็อป)
อีกวิธีในการสร้างลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการ Amazon คือการใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ SiteStripe เมื่อคุณเข้าสู่ระบบ เครื่องมือนี้จะปรากฏที่ด้านบนของหน้าผลิตภัณฑ์ Amazon.com ดังนั้นคุณจึงสามารถสร้างลิงก์ได้อย่างรวดเร็วขณะเรียกดูแคตตาล็อกและหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลือกของคุณ
GetLink (สำหรับมือถือ)
GetLink ช่วยให้คุณสร้างลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการได้โดยการคลิกที่ไอคอนแชร์บนหน้าผลิตภัณฑ์จากโทรศัพพ์มือถือของคุณ จากนั้นคุณสามารถแชร์ลิงก์ที่สั้นลงซึ่งมี Associate ID ของคุณฝังอยู่ได้
อย่าลืมว่าลิงก์ทุกลิงก์ที่คุณโปรโมทจะต้องมีศักยภาพในการสร้างรายได้โดยใส่ Associate ID ของคุณลงไปด้วย
8. เชื่อมต่อกับ Shopify โดยใช้แอป Connector
ถ้าเว็บไซต์ของคุณใช้ Shopify ให้ใช้แอปที่ผสานการทำงานร่วมกับ Amazon เพื่อดึงผลิตภัณฑ์ Amazon ที่คุณเลือกเข้าสู่ร้านค้า Shopify ของคุณอย่างรวดเร็ว
วิธีนี้เป็นวิธีที่รวดเร็วในการสร้างเว็บไซต์ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการของ Amazon ที่มีคุณภาพสูง หลังจากเชื่อมโยงบัญชี Amazon Associates ของคุณแล้ว คุณจะสามารถนำเข้าผลิตภัณฑ์โดยใช้ URL ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้
เมื่อคุณเพิ่มผลิตภัณฑ์ผ่านแอป Connector ผลิตภัณฑ์นั้นก็จะไปแสดงอยู่ในร้าน Shopify ของคุณ ซึ่งผู้เข้าชมก็สามารถคลิกเพื่อซื้อได้
ข้อดีและข้อเสียของการเป็นตัวแทน Amazon
แม้ว่าจะมีหลากเหตุผลที่ทำให้น่าเข้าร่วม แต่ Amazon Affiliate Program ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เรามาดูข้อดีและข้อเสียกัน เพื่อพิจารณาว่าการทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ Amazon เหมาะกับคุณหรือไม่
ข้อดี
การเป็นตัวแทนกับ Amazon ทำให้คุณเข้าถึงตลาดระดับโลกที่มีผลิตภัณฑ์นับล้าน ซึ่งหมายความว่า คุณจะสามารถเจอการแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องสำหรับผู้ชมของคุณได้เกือบตลอดเวลา
นอกจากนี้ Amazon ยังได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะทำการซื้อผ่านลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการของ Amazon มากกว่าตัวแทนอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก
อีกหนึ่งข้อดีของ Amazon Affiliate Program คือ คุณสามารถโปรโมทลิงก์ได้ในร้านค้าอีคอมเมิร์ซได้ ซึ่ก็แปลว่า คุณสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่คุณเป็นตัวแทนโฆษณาลงในร้านค้าออนไลน์ของคุณได้นั่นเอง
ข้อเสีย
เมื่อเปรียบเทียบกับโปรแกรมตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการเจ้าอื่นๆ ระยะเวลาคุกกี้ของ Amazon นั้นค่อนข้างสั้น ผู้ที่กดลิงก์เข้ามาจะต้องใส่สินค้านั้นลงในตระกร้าภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากคลิกลิงก์ของคุณ เพื่อให้คุณมีสิทธิ์ได้รับค่าคอมมิชชัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่กดลิงก์เข้ามาสามารถชำระเงินในวันอื่นได้ ตราบใดที่สินค้านั้นยังคงอยู่ในตะกร้า
ค่าคอมมิชชันจะได้รับการยืนยันเมื่อผลิตภัณฑ์ถูกจัดส่งไปแล้วเท่านั้น ไม่ใช่ได้ตอนที่ขายได้ ถ้าลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อก่อนการจัดส่ง ค่าคอมมิชชันของคุณจะถูกยกเลิกไปด่งบ
ในแง่ของอัตราค่าคอมมิชชัน โปรแกรมของ Amazon มีอัตราคอมมิชชันต่ำกว่าโปรแกรมที่แบรนด์อื่นๆ ทำเองโดยตรงอยู่มาก แต่สำหรับบางคนแล้ว การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่แทบจะไม่มีที่สิ้นสุดก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วในการยอมรับค่าคอมมิชชันที่ต่ำกว่าต่อการขาย ในขณะที่บางคนก็อาจจะคิดว่าด้วยอัตราคอมมิชชันเท่านี้ การจะสร้างรายได้ให้ได้เพียงพอก็จะเป็นเรื่องยาก
เคล็ดลับการบูสต์รายได้ผ่านการทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ
การจะทำให้ Amazon Affiliate Program เวิร์กสำหรับคุณนั้น คุณต้องวางกลยุทธ์สักหน่อย
หลังจากที่คุณตั้งค่าบัญชี Amazon Affiliate Program เรียบร้อยแล้ว ก็มาดูเคล็ดลับและกลยุทธ์สำหรับการเพิ่มรายได้และสร้างรายได้แบบพาสซีฟจากตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการเหล่านี้ได้เลย
ค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่ม
เช่นเดียวกับทุกกลยุทธ์ไม่ว่าจะของแบรนด์ใดๆ การสร้างตัวตนในตลาดเฉพาะกลุ่มเป็นวิธีที่ดีในการมุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าเฉพาะ ตลาดเฉพาะกลุ่มคือกลุ่มหนึ่งในตลาดที่ใหญ่กว่า ที่มีความต้องการและความรู้เฉพาะตัว ซึ่งจะกลายเป็นความเชี่ยวชาญของคุณในฐานะนักการตลาดตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ
“เจาะลึงลงไปในตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณ และทำความรู้จักตลาดนั้นอย่างละเอียดเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาที่คนเราอาจจะมีมีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มได้” Arun Grewal ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ตลาดเฉพาะกลุ่มตัวแทน Coffee Brewing Pro แนะนำ
“การทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ คือการเพิ่มข้อมูลเชิงลึกและมุมมองของคุณเอง และก้าวขึ้นเป็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะกลุ่มหรือปัญหานั้นๆ โดยเฉพาะ”
คุณจะต้องโฟกัสไปที่ประเภทผลิตภัณฑ์ที่คุณสนใจจริงๆ เพราะมันจะทำให้คุณมีแรงจูงใจในการสร้างธุรกิจมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Elise Dopson สมาชิก Amazon Associate ได้ก่อตั้ง Sprocker Lovers ซึ่งเป็นเว็บไซต์ดูแลสัตว์เลี้ยงที่รวบรวมคำแนะนำ เคล็ดลับ และการรีวิวผลิตภัณฑ์เข้าด้วยกัน
Elise กล่าวว่า “Amazon Associates เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างรายได้จากยอดเข้าชมบล็อก และมอบทางเลือกในการซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้แก่ผู้อ่าน”
Elise แปะลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการ Amazon ลงในโพสต์ที่อยู่ในบล็อกตลาดเฉพาะกลุ่มของเธอ เพื่อจะส่งผู้อ่านไปยังตลาดเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง
คุณจะค้นหาตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณให้เจอได้อย่างไร มาดูข้อควรพิจารณาต่อไปนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองกัน
- หัวข้อที่คุณสนใจ: นักการตลาดตัวแทนที่ดีจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของตนเมื่อเวลาผ่านไป คุณต้องคอยติดตามเทรนด์ เข้าร่วมกิจกรรม และเรียนรู้อยู่เสมอ
- ปัญหาที่คุณสามารถแก้ไขได้: ผู้คนจะติดตามคุณเพราะพวกเขาชื่นชอบข้อมูลเชิงลึกของคุณ และคุณก็จะสร้างคุณค่าได้ด้วยการช่วยพวกเขาแก้ปัญหา
- อุตสาหกรรมที่ทำกำไรได้: ค้น Google Trends เพื่อดูว่าตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณเป็นที่นิยมขนาดไหน อ่านรายงานการวิจัยตลาดและดูว่าผู้คนค้นหาหัวข้อตลาดเฉพาะกลุ่มของคุณบ่อยแค่ไหน สิ่งนี้จะช่วยบ่งบอกได้ว่าผู้คนพร้อมที่จะซื้อหรือไม่
สร้างคอนเทนต์ในแบบฉบับของคุณเองในแพลตฟอร์มต่าง ๆ
ในฐานะผู้ประกอบการออนไลน์ คุณคงตระหนักดีอยู่แล้วว่าคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใครนั้นดีอย่างไร คอนเทนต์แบบนี้จะช่วยให้ทำให้คุณโดดเด่น สร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ติดตาม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการที่ประสบความสำเร็จ
แต่การสร้างคอนเทนต์ในแบบฉบับของคุณเองนั้นยังไม่เพียงพอ คุณยังต้องกระจายคอนเทนต์นั้นไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ ด้วย ลูกค้าที่ใช้งานหลายช่องทางช้อปมากกว่าถึง 1.7 เท่า และใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าที่ใช้ช่องทางเดียว
ยกตัวอย่าง Package Free บริษัทที่ชูความรับผิดชอบต่อสังคม โดย Package Free นั้นเป็นหน้าร้านของบล็อกและช่อง YouTube ที่ชื่อว่า Trash is for Tossers ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มุ่งเน้นการใช้ชีวิตแบบลดหรือไม่สร้างขยะ
ช่อง YouTube ช่องนี้เต็มไปด้วยคอนเทนต์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนมากขึ้น การทำคอนเทนต์และแสดงให้เห็นว่ามีความเชี่ยวชาญด้านนี้สามารถดึงดูดผู้คนที่มีแนวโน้มที่จะเชื่อถือและตัดสินใจซื้อในที่สุดได้ เพราะเมื่อมีการแปะลิงก์ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการของ Amazon ลิงก์นั้นก็จะดูน่าเชื่อถือทันที
อีกเหตุผลหนึ่งในการสร้างคอนเทนต์ในแบบของคุณเองในที่อื่นๆ ก็คือ การมุ่งเป้าไปที่คีย์เวิร์ดแบบยาวในหลายรูปแบบ อย่างในภาพด้านบนนี้ คุณจะเห็นตัวอย่างข้อความยาวๆ แบบนั้นปรากฏอยู่ในเพลย์ลิสต์ เช่น “ทางเลือกง่ายๆ สำหรับการลดขยะ” และ “การช้อปปิ้งแบบไม่สร้างขยะ” เป็นต้น
ทั้งนี้ก็อย่าลืมว่า การสร้างคลังคอนเทนต์นั้นเป็นกระบวนการที่ต้องลงมือทำระยะยาว เช่นเดียวกับกลยุทธ์ การทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการใดๆ เวลาและความทุ่มเทจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
ลงทุนกับ SEO
หากคุณต้องการให้ผู้คนเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณผ่าน Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ คุณจะต้องคิดเรื่องการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับ (SEO) ด้วย คุณต้องดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อค้นหาในเสิร์ชเอนจิน เว็บไซต์ของคุณจะปรากฏอยู่ในผลลัพธ์การค้นหา
อย่างไรก็ตาม SEO ไม่ใช่แค่การยัดๆ คีย์เวิร์ดใส่ลงไปอย่างเดียว แล้วคุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เว็บไซต์ของคุณได้รับการปรับแต่งให้ติดอันดับการค้นหาแล้วกันล่ะ คุณก็ต้องสร้างหน้าเว็บหรือทำคอนเทนต์ที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้นยังไงล่ะ
การรีวิวผลิตภัณฑ์
การรีวิวผลิตภัณฑ์oyhoมีวัตถุประสงค์ 2 ประการ โดยการรีวิวนั้นจะช่วยสร้างการพิสูจน์ทางสังคม สำหรับผู้ที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้า และยังช่วยเสริม SEO ของคุณด้วย เพราะมันจะทำใหคอนเทนต์ของคุณสดใหม่และทันสมัยอยู่เสมอ
นักการตลาดตัวแทนที่โพสต์การรีวิวผลิตภัณฑ์อย่างตรงไปตรงมาและไม่มีอคติ ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวผลิตภัณฑ์ของตนเองหรือของลูกค้า สามารถทำให้ผู้ติดตามเกิดความภักดี และเปลี่ยนการรีวิวให้เป็นยอดขายได้ และจริงๆ แล้ว งานวิจัย ของ McKinsey ก็ได้ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีคะแนนดาว 3.5 หรือสูง คิดเป็นสัดส่วนถึง 95% ของผลิตภัณฑ์ที่ขายได้
“แชร์ประสบการณ์ที่คุณมีต่อผผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า และบอกข้อมูลทั้งข้อดีและข้อเสียพร้อมตัวอย่าง” Hugo Guerreiro จาก The Men Hero กล่าว
“ลูกค้าต้องการรู้ว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไรตรงไหน เพราะพวกเขากลัวที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถหายไปได้หลังจากที่อ่านประสบการณ์ของคุณ ทำให้พวกเขาซื้อได้เร็วขึ้น”
คุณยังสามารถสร้างคู่มือแนะนำการซื้อและแนะนำของขวัญ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่คุณแนะนำในฐานะตัวแทนได้อีกด้วย นักการตลาดตัวแทนมักสร้างคู่มือของขวัญเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านคอนเทนต์ และโพสต์คำแนะนำพร้อมลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการเช่น Amazon
หากผู้อ่านต้องการซื้อ พวกเขาสามารถคลิกลิงก์และซื้อผ่าน Amazon ได้เลย ตัวอย่างเช่น The Everyday Farmhouse เป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการของ Amazon ที่มี คู่มือแนะนำของขวัญสำหรับคนติดบ้าน
ไม่ว่าจะสร้างเป็นการโพสต์ลงในบล็อก หรือสร้างหน้าเว็บขึ้นมาโดยเฉพาะเลย การเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ก็เป็นวิธีที่ดีในการเสริม SEO เนื่องจากมีข้อมูลแสดงให้เห็นว่า 60% ของลูกค้าเริ่มค้นหาผลิตภัณฑ์บน Amazon การเสนอการเปรียบเทียบของผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันเช่นนี้เป็นข้อมูลที่ลูกค้าสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจได้
หน้าแรก
คนเรามักจะลืมทำ SEO ในหน้าแรกของเว็บ แต่วิธีง่ายๆ ในการทำ SEO ให้หน้าเพจของคุณคือ การใส่คีย์เวิร์ดเป้หมายลงไปในชื่อของหน้าแรก โปยปรับแต่งคีย์เวิร์ดในคำอธิบายเมต้าหน้าเพจ ปรับแต่งให้เหมาะกับการใช้งานบนมือถือ เพิ่ม SSL และทำให้ความเร็วในการโหลดหน้าเพจนั้นรวดเร็วอยู่เสมอ
“วิธีที่ดีที่สุดในการขับเคลื่อนยอดเข้าชมแบบออร์แกนิกไปยังบล็อกของคุณและสร้างรายได้ที่เพียงพอ คือการรวมคอนเทนต์คุณภาพสูงเข้าด้วยกันผ่าน SEO ครับ” Nicholas Martin ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ Pest Control Hacks กล่าว “ถ้าคุณลงทุนใน SEO ก็จะมีคนเห็นคุณมากขึ้น และขับเคลื่อนยอดขายจากลิงก์ตัวแทนโฆษณาได้อย่างเป็นธรรมชาติ”
ที่กล่าวไปนั้นเป็นเพียงบางวิธีในการทำ SEO เพราะยังมีวิธีอื่นอีกในการขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆ ของ Google และนัน่ก็คือการสร้างบล็อก เมื่อคุณโพสต์คอนเทนต์คุณภาพสูงลงในบล็อกอย่างสม่ำเสมอ คุณจะสร้างความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะกลุ่ม ซึ่งสามารถช่วยให้คุณติดอันดับสูงขึ้นเวลาค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้
เริ่มทำบล็อก
การสร้างบล็อกก็คล้ายกับการสร้างคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มอื่น ๆ เหตุผลหลักในการโพสต์คอนเทนต์บนบล็อกของคุณก็คือ เพื่อช่วยทำให้คุณกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ ทั้งยังช่วยในการทำ SEO และพาผู้อ่านไปยังผลิตภัณฑ์ของคุณ
แหล่งรายได้อื่นๆ จาก Amazon
นอกจากการเป็นตัวแทน Amazon แล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ในการสร้างรายได้จาก Amazon ด้วย นอกเหนือไปจากการทำรายการสินค้าในตลาดหลักของ Amazon
- Amazon Handmade เป็นพื้นที่สำหรับขายงานฝีมือและสินค้าแฮนด์เมดโดยเฉพาะ
- Kindle Direct เป็นเครื่องมือสำหรับการเผยแพร่และขายหนังสือโดยตรงให้กับผู้อ่าน
- Amazon Merch on Demand ช่วยให้คุณเพิ่มการออกแบบของคุณลงในผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์ตามสั่ง
คุณสามารถใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อทำงานจากความคิดสร้างสรรค์ของคุณ และเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหญ่ยักษ์ของ Amazon ได้
ทำเงินให้มากขึ้นอีกกับ Amazon
การเข้าสู่โลกของการทำการตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการด้วย Amazon Associates Program นั้นไม่ยากเลย สิ่งที่คุณต้องมีคือเว็บไซต์ แอป หรือช่อง YouTube จากนั้นก็ลงทะเบียนกับ Amazon และสร้างคอนเทนต์ที่คุณสามารถเพิ่มลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการได้
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถก้าวไปข้างหน้าอีกขั้นด้วยการเชื่อมโยงบัญชีตัวแทน Amazon ของคุณเข้ากับร้านค้า Shopify ของคุณโดยใช้แอป Amazon Associate Connector ที่จะทำให้คุณสามารถแสดงรายการผลิตภัณฑ์ Amazon และลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการในหน้าร้านของคุณได้เลย โดยใช้แบรนดิ้งของร้านค้าคุณนั่นเอง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Amazon Affiliate Program
จะเป็นนักการตลาดตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการให้กับ Amazon ได้อย่างไร
คุณสามารถเข้าร่วม Amazon Affiliate Program ได้โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้
ไปที่เว็บไซต์ Amazon Associates และคลิก “Sign up”กรอกข้อมูลที่จำเป็นเพิ่มเว็บไซต์ ช่อง YouTube หรือแอปมือถือของคุณตั้งค่าโปรไฟล์ตัวแทนของคุณอธิบายวิธีที่คุณพายอดการเข้าชมไปยังเว็บไซต์ของคุณเพิ่มข้อมูลภาษีและการชำระเงินใช้แอป Amazon Affiliate Connector สำหรับ Shopifyแอปะลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการ Amazon ของคุณลงในคอนเทนต์ จากนั้นก็รอรับเงินได้เลยข้อดีของการเป็นตัวแทน Amazon คืออะไร
การเป็นตัวแทน Amazon มีข้อดีหลายประการ อาทิ
- Amazon เป็นตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- ผู้บริโภคไว้วางใจในการซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านลิงก์ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ Amazon
- คุณสามารถรับเงินผ่านการโอนเงินตรง เช็ค หรือบัตรของขวัญ Amazon ก็ได้
- มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกนับล้าน
- คุณสามารถเชื่อมต่อบัญชี Amazon Associates ของคุณกับร้านค้า Shopify ได้
ตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ Amazon ทำรายได้เท่าไหร่
ตามข้อมูลจาก ZipRecruiter ค่าเฉลี่ยรายได้สำหรับตัวแทน Amazon อยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านบาทต่อปี ผู้ที่มีรายได้สูงสุด 3% ใน Amazon Affiliate Program ทำรายได้ระหว่าง 3.8 ถึง 4.4 ล้านบาท ในขณะที่ 13% ที่มีรายได้ต่ำสุดทำรายได้ระหว่าง 1.2 ถึง 1.5 ล้านบาท
ตัวแทน Amazon ได้รับเงินอย่างไร
Amazon Associate ที่พาลูกค้ามาซื้อสินค้าหรือบริการได้สำเร็จสามารถเลือกได้รับเงินผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีโดยตรง หรือรับเป็นบัตรของขวัญ Amazon หรือเช็คก็ได้ การชำระเงินจะดำเนินการใน 60 วันหลังจากสิ้นเดือนที่มีการสร้างรายได้
จะเกิดอะไรขึ้นหากลูกค้าคืนผลิตภัณฑ์ที่ซื้อผ่านลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการของฉัน
ผลิตภัณฑ์ที่คืนจะไม่มีสิทธิ์ได้รับค่าคอมมิชชันผ่าน Amazon ดังนั้นค่าคอมมิชชันใดๆ ที่ได้รับแล้วจะถูกหักออกจากรายได้ในอนาคต
ลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการ Amazon มีอายุเท่าไหร่
ลิงก์โฆษณาสินค้าและบริการ Amazon มีระยะเวลาคุกกี้ 24 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่าลูกค้าต้องเพิ่มสินค้าลงในตะกร้าภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากคลิกลิงก์เพื่อให้ถือนับว่าเป็นการพามาได้สำเร็จ การชำระเงินสามารถทำในวันอื่นๆ หลังจากนั้นได้ ตราบใดที่สินค้ายังคงอยู่ในตะกร้าของลูกค้า