การมีเงินเพิ่มเติมสักนิดก็ยังดีกว่าเสมอแหละ โดยเฉพาะถ้ารายรับจากงานประจำมันค่อนข้างจะตึงมืออยู่หน่อยๆ และการเลือกทำงานเสริมที่เหมาะสามารถเพิ่มรายได้ในกระเป๋าที่คุณต้องการได้นะ
คนที่มีงานเสริมนั้นก็มาจากหลากหลายพื้นเพและสาขาอาชีพ แต่ที่เหมือนกันคือพวกเขามีความคิดสร้างสรรค์ ยินดีที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ และมองว่าทรัพยากรที่จำกัดเป็นความท้าทายที่น่าตื่นเต้น และการใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์ คุณก็สามารถเข้าถึงศักยภาพของการทำงานเสริมได้เช่นกัน
ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายในการสร้างรายได้แบบพาสซีฟ หรือเปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ ลิสต์งานเสริมด้านล่างนี้จะต้องมีสักไอเดียที่โดนใจคุณแน่ๆ
30 ไอเดียงานเสริมที่น่าสนใจในปี 2025
- สร้างรายได้จากช่อง YouTube
- เขียนบล็อกหรือจดหมายข่าว
- อัดพอดแคสต์
- ทำแบบสำรวจออนไลน์
- รับทดสอบแอป
- หาสปอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย
- เป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ
- ขายสินค้าดิจิทัล
- เริ่มธุรกิจดรอปชิป
- เป็นที่ปรึกษาการตลาดดิจิทัล
- พัฒนาแอปมือถือ
- ขายสินค้ามือสองหรือวินเทจ
- ให้คำปรึกษาธุรกิจรักษ์โลก
- ออกแบบและขายเสื้อยืด
- ทำเสื้อผ้าแบรนด์ตัวเอง
- ขายภาพถ่าย
- เป็นนักพากย์
- ที่ปรึกษาออกแบบภายใน VR
- ขายสินค้าแฮนด์เมด
- สอนพิเศษแบบตัวต่อตัวหรือออนไลน์
- ถอดเทปหรือรับงานแปล
- เป็นฟิตเนสเทรนเนอร์ออนไลน์
- ส่งพัสดุ
- เป็นไรเดอร์ส่งของ
- ให้เช่าบ้านหรือห้องว่าง
- ขับแกร๊บ
- ล้างและดูแลรถ
- ตัดหญ้าและทำงานจัดสวนอื่นๆ
- จัดทัวร์ในละแวกใกล้เคียง
- บริการดูแลสัตว์เลี้ยงและพาสุนัขเดินเล่น
งานออนไลน์ยอดนิยมสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์
1. สร้างรายได้จากช่อง YouTube
YouTube มีผู้ชมจำนวนมากถึง 2.5 พันล้านคน ที่รับชมวิดีโอรวมกันเป็นพันล้านชั่วโมงทุกวัน คุณสามารถเข้าถึงการรับชมเหล่านั้นได้โดยการเข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ YouTube ที่อนุญาตให้คุณสร้างรายได้จากโฆษณาที่แสดงระหว่างวิดีโอของคุณ
แต่คุณต้องอย่าลืมว่า การรวบรวมผู้ชมให้เพียงพอเพื่อทำเงินจากโฆษณานั้นต้องใช้เวลา นั่นคือเหตุผลที่ครีเอเตอร์ YouTube หลายคนมองหาวิธีการสร้างรายได้อื่นๆ ควบคู่ไปด้วย
คุณสามารถทำเงินจาก YouTube ได้หลายวิธี นอกเหนือจากการเข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับแบรนด์เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ในวิดีโอของคุณ โดยแบรนด์จะจ่ายค่าสปอนเซอร์หรือมอบส่วนแบ่งจากยอดขายให้คุณเป็นการตอบแทน ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งคือการชักชวนผู้ชมให้ซื้อผลิตภัณฑ์จากร้านค้าออนไลน์ของคุณ
ก้าวต่อไป: เริ่มต้นด้วยการสร้างวิดีโอและ Shorts ที่น่าสนใจและได้ใจคนดูที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณ เมื่อคุณมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้น ก็ให้มองถ้าลยุทธ์อื่นๆ ในการทำเงินร่วมด้วย เช่น การเข้าร่วมโปรแกรมพาร์ทเนอร์ การขายสินค้า หรือการเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการจากพาร์ทเนอร์เป็นต้น
2. เขียนบล็อกหรือจดหมายข่าว
การเขียนบล็อกเป็นงานเสริมที่ได้รับความนิยมมานาน แต่การสร้างรายได้อาจเป็นเรื่องท้าทายอยู่หน่อยๆ ดังนั้นบล็อกเกอร์จำนวนมากเลยหันมาใช้แพลตฟอร์มการสมัครรับคอนเทนต์ เช่น Substack ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่นักเขียนอิสระสามารถเผยแพร่ผลงานและได้รับค่าตอบแทนจากผู้อ่านได้โดยตรง
วิธีนี้ช่วยให้บล็อกเกอร์สามารถสร้างผู้ชมได้ในระยะยาวและรักษากระแสรายได้ให้เข้ามาทุกเดือนได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาโฆษณาที่มากวนใจ การหาสปอนเซอร์ หรือการหางานเขียนฟรีแลนซ์อื่นๆ มาประกอบ
ก้าวต่อไป: เมื่อคุณสร้างฐานผู้อ่านได้แล้ว ให้พิจารณาขายผลิตภัณฑ์และสินค้าที่ระลึกให้กับแฟนๆ ของคุณ วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีมาๆ ในการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ส่วนตัวของคุณ
3. อัดพอดแคสต์
พอดแคสต์กลายเป็นส่วนสำคัญของโลกเนื้อหาออนไลน์ไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 6 ปีที่ผ่านมานี้ ที่จำนวนผู้ฟังพอดแคสต์นั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง
การทำพอดแคสต์มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างต่ำ ไมโครโฟน USB ดีๆ สักตัวที่เอาไว้สำหรับอัดพอดแคสต์โดยเฉพาะก็สนนราคาไม่ถึง 3,500 บาท และแพลตฟอร์มสำหรับอัดเสียง เช่น Audacity ก็ฟรีและใช้งานง่าย
ก้าวต่อไป: ในการเริ่มพอดแคสต์ ให้หาธีมหรือหัวข้อที่ตรงใจกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย อัด 2-3 ตอนแรกเอาไว้ก่อนล่วงหน้า จากนั้นก็วางแผนแคมเปญเปิดตัว เมื่อเริ่มอยู่ตัวมากขึ้น ก็ให้ใส่โฆษณาหรือสปอนเซอร์ลงไป เพื่อเปลี่ยนพอดแคสต์ของคุณเป็นงานเสริมที่สร้างรายได้ให้กับคุณได้
4. ทำแบบสำรวจออนไลน์
มีบริษัทและนักวิจัยตลาดจำนวนมากที่ต้องการรู้ว่าผู้คนคิดอย่างไรเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขา การกรอกแบบสอบถามอาจไม่ทำให้คุณร่ำรวย แต่สามารถช่วยให้คุณมีเงินพิเศษจากการทำงานในวันหยุดได้อยู่นะ
ก้าวต่อไป: เว็บไซต์อย่าง Branded Surveys, Swagbucks, และ Survey Junkie มีแบบสอบถามมากมายที่คุณทำแล้วได้เงิน
5. รับทดสอบแอป
ไม่มีอะไรหยุดธุรกิจได้เร็วเท่ากับเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยปัญหาหรือแอปที่ใช้งานไม่ได้ ดังนั้นนักพัฒนาจึงต้องการผู้ทดสอบเข้ามาเพื่อคลิกทุกลิงก์และเล่นกับปุ่มต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้ก่อนที่จะปล่อยออกสู่สาธารณะ คุณทำเงินจากการทดสอบแบบนี้ได้นะ และบางงานก็เสนอเงินให้ถึง 3,500 บาทสำหรับการทดสอบ 60 นาที เลยล่ะ ดังนั้นนี่คือโอกาสในการทำเงินนะ
ก้าวต่อไป: เว็บไซต์จับคู่คนทำแอปกับคนทดสอบ อย่าง UserTesting, uTest, Userlytics, UserCrowd, และ Enroll สามารถเชื่อมต่อคุณกับงานทดสอบเว็บไซต์และแอปได้
6. หาสปอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย
ถ้าคุณมีงานอดิเรกเฉพาะทาง ก็ให้เริ่มทำคอนเทนต์ที่จะโดนใจคนคอเดียวกันลง TikTok หรือ Instagram เลย เมื่อคุณสร้างผู้ติดตามที่ภักดีได้แล้ว คุณก็จะสามารถสร้างรายได้จากบัญชีของคุณผ่านการมีสปอนเซอร์เข้า โดยแบรนด์ต่างๆ จะจ่ายเงินให้คุณเพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ของพวกเขา
ก้าวต่อไป: ลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้เพื่อสร้างคลิปไวรัลใน TikTok ดูสิ
งานการตลาดและอีคอมเมิร์ซที่ทำกำไรได้
7. เป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ
การตลาดผ่านตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ คือการโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือบริการบนแพลตฟอร์มของคุณและรับค่าคอมมิชชันจากยอดขายที่เกิดจากการแนะนำของคุณ (โดยปกติจะผ่านลิงก์หรือโค้ดเฉพาะตัวของคุณ)
ถ้าคุณมีพอดแคสต์ เป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ หรือมีร้านค้าเป็นของตัวเอง ให้ลองเป็นตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการดู วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้แบบพาสซีฟที่คุณสามารถนำกลับมาลงทุนกับคอนเทนต์หรือธุรกิจของคุณได้นะ
ในการเริ่มต้น ให้ไปที่ตลาดของตัวแทนโฆษณาสินค้าและบริการ เช่น Leadpages, ConvertKit, ClickBank หรือ ShareASale และค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคุณ ถ้าคุณเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หรืออินฟลูเอ็นเซอร์ที่ทำงานในโลกอีคอมเมิร์ซ Shopify Affiliate Program อาจเป็นงานเสริมที่ทำกำไรได้ของคุณได้นะ
ก้าวต่อไป: ดูลิสต์โปรแกรม Affiliate สำหรับนักการตลาดและคอนเทนต์ครีเอเตอร์
8. ขายสินค้าดิจิทัล
ผลิตภัณฑ์ดิจิทัล คือสินค้าที่มีเฉพาะทางออนไลน์ เช่น ไฟล์ที่สามารถดาวน์โหลดหรือสตรีมได้อย่าง MP3, PDF, คลิปวิดีโอ และเทมเพลตทางเทคนิค
คุณสามารถใช้ทักษะที่คุณมีอยู่เพื่อเริ่มสร้างผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเป็นงานเสริม ซึ่งอาจหมายถึงอีบุ๊กที่สอนทักษะต่างๆ ในอุตสาหกรรมของคุณ เพลงหรือภาพแบบคัสตอม หรือเทมเพลตดิจิทัลประเภทต่างๆ
ถ้าคุณเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ล่ะก็ คุณสามารถส่องหน้าเว็บต่างๆ เพื่อดูว่าพวกเขาใช้ฟอนต์เก๋ๆ แบบไม่ซ้ำกัน และจัดเลย์เอาต์เว็บให้ดึงดูดสายตาเพื่อสร้างความโดดเด่นให้ตัวเอง
ก้าวต่อไป: เมื่อคุณสร้างผลิตภัณฑ์ของคุณเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ตั้งร้านค้าออนไลน์เพื่อขายให้กับลูกค้า โปรโมทผลิตภัณฑ์ของคุณในโซเชียลมีเดียโดยมีโปรโมชันที่ดึงดูดใจ เช่น มีตัวอย่างให้ใช้ฟรี หรือมีรหัสส่วนลด
9. เริ่มธุรกิจดรอปชิป
ถ้าคุณต้องการเปิดร้านค้า แต่ไม่ชอบการที่ต้องซื้อและเก็บสต็อกสินค้า ก็ลองดูธุรกิจดรอปชิป
การดรอปชิปเป็นโมเดลธุรกิจออนไลน์ที่ผู้ให้บริการภายนอกจะเป็นผู้ผลิตและจัดส่งผลิตภัณฑ์ในนามของคุณ สิ่งที่คุณต้องทำคือการตั้งร้านค้า กำหนดราคา และขายของ
เนื่องจากผลิตภัณฑ์จะถูกซื้อและจัดส่งหลังจากที่มีการสั่งซื้อ การดรอปชิปจึงเป็นงานเสริมที่มีความเสี่ยงต่ำ เมื่อผู้จัดจำหน่ายของคุณเป็นผู้จัดการคำสั่งซื้อ คุณก็จะมีเวลาเหลือพอให้ไปโฟกัสกับการทำการตลาดได้
ก้าวต่อไป: เลือกพันธมิตรดรอปชิปจากลิสต์ซัพพลายเออร์ดรอปชิป
10. เป็นที่ปรึกษาการตลาดดิจิทัล
การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ทำให้มีความต้องการบริการการตลาดดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เจ้าของธุรกิจจึงมักมองหาฟรีแลนซ์ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ ดูแลบัญชีโซเชียลมีเดีย ปรับแต่งเว็บไซต์ และอีกหลากหน้าที่มาทำงานให้
ก้าวต่อไป: เข้าถึงตลาดนี้โดยการโฆษณาบริการของคุณบนแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ ลองสร้างเว็บไซต์สาธิตเพื่อโชว์ทักษะหรือพอร์ตโฟลิโอที่มีผลงานก่อนหน้านี้ของคุณดู
11. พัฒนาแอปมือถือ
การพัฒนาแอปมือถือสามารถเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ถ้าคุณมีทักษะในการเขียนโค้ด ไม่ว่าจะเป็นแอปที่ใช้งานได้จริงหรือเกมสนุกๆ แอปที่เหมาะสมสามารถสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญ และเนื่องจากคุณจะทำงานฉายเดี่ยว คุณจึงสามารถหาเวลาช่วงเย็นและช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์มาโฟกัสกับงานนี้ได้
ก้าวต่อไป: ท้าทายตัวเองและทดสอบฝีมือของคุณโดยการสร้างแอปง่ายๆ ที่มีฟังก์ชันเดียว และปล่อยลงใน App Store ดูสิ
12. ขายสินค้ามือสองหรือวินเทจ
อีกวิธีในการหารายได้เสริมก็คือการขายสินค้ามือสอง คุณสามารถขายสิ่งของที่คุณไม่ใช้แล้วในกลุ่มซื้อขายของแถวบ้าน หรือใน Facebook Marketplace ก็ได้ และถ้าคุณตาแหลมพอ ก็สามารถหาสินค้าในร้านขายของมือสองแล้วเอามาขายต่อในตลาดสินค้าวินเทจได้เช่นกัน ไอเดียงานเสริมนี้จะยิ่งสนุกถ้าคุณชอบของแต่งบ้านหรือแฟชั่น
ก้าวต่อไป: ถ้าคุณขายเสื้อผ้าวินเทจออนไลน์แล้วรุ่ง ทำไมไม่เปิดร้านค้าออนไลน์ไปเลยล่ะ
13. ให้คำปรึกษาธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ให้ความช่วยเหลือธุรกิจและผู้ประกอบการเมื่อพวกเขาพยายามที่จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากกว่าเดิมด้วยบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจสีเขียว ซึ่งช่วยสร้างสมดุลระหว่างผลกำไรและการลดมลพิษได้
ก้าวต่อไป: สร้างความน่าเชื่อถือด้านสิ่งแวดล้อมโดยใช้ทักษะที่คุณมีไปข่วยเหลือธุรกิจหรือกิจกรรมการกุศลในท้องถิ่น
งานสร้างสรรค์และศิลปะที่ทำได้จากที่บ้าน
14. ออกแบบและขายเสื้อยืด
ถ้าคุณมีความหลงใหลในด้านการออกแบบ ธุรกิจพิมพ์ตามสั่ง หรือ Print on Demand ก็เป็นงานเสริมที่สนุกและมีความเสี่ยงต่ำ แอปเช่น Printful, Printify, และ Gelato ช่วยให้คุณสามารถอัปโหลดดีไซน์ของคุณ แล้วพิมพ์ลงบนเสื้อยืด จากนั้นก็จัดส่งเมื่อมีการสั่งซื้อเข้ามา ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าคงคลังจำนวนมากล่วงหน้านั่นเอง
ก้าวต่อไป: Shopify มีทุกอย่างที่คุณต้องการในการเริ่มขายเสื้อยืดออนไลน์
15. ทำเสื้อผ้าแบรนด์ตัวเอง
แน่นอนว่า การเริ่มต้นเสื้อผ้าของตัวเองอาจดูเหมือนเป็นงานเต็มเวลา แต่การคัดเลือกเสื้อผ้าของคุณเองนั้นง่ายกว่าที่คิด โดยเฉพาะเมื่อใช้โมเดลธุรกิจดรอปชิป
ยิ่งถ้าคุณมีหัวครีเอทีฟ คุณก็สามารถยกระดับงานเสริมของคุณด้วยการออกแบบและผลิตเสื้อผ้าของคุณเองจากศูนย์ เย็บชิ้นงานที่ไม่ซ้ำกันหรือจ้างโรงงานผลิตตามแบบที่คุณตั้งใจได้เลย
ก้าวต่อไป: นี่คือลิสต์ผู้ให้บริการดรอปชิปที่เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น
16. ขายภาพถ่ายของคุณ
เว็บไซต์เช่น Shutterstock และ Getty Images มักมองหาภาพถ่ายที่สามารถใช้ในเว็บไซต์และแคมเปญโฆษณา ตราบใดที่อินเทอร์เน็ตยังมีอยู่ จะมีความต้องการภาพใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะเว็บไซต์ต่างๆ ต่างก็ต้องการอัปเดตและปรับปรุงคอนเทนต์ของตัวเอง
คุณยังสามารถขายภาพถ่ายของคุณในรูปแบบพิมพ์หรือนำไปพิมพ์ลงบนสินค้าต่างๆ เช่น แก้วหรือเสื้อสเวตเตอร์ ก็ได้ ทำให้ภาพของคุณกลายเป็นงานศิลปะที่สามารถแขวนหรือสวมใส่ได้ และทุกวันนี้ การพิมพ์ภาพถ่ายให้ได้คุณภาพก็เป็นเรื่องที่ง่ายและไม่แพง จึงมีตลาดมารองรับอยู่เสมอถ้าคุณใช้รูปที่โดนใจคน
นอกจากนี้ คุณสามารถขายบริการถ่ายภาพได้ด้วยนะ แค่รับถ่ายภาพงานแต่งอย่างเดียวก็กลายเป็นงานประจำได้แล้ว นี่ยังไม่ได้พูดถึงช่างภาพคอนเสิร์ต งานรับปริญญา งานรวมญาติประจำปี และอีกหลากงานนะ
ก้าวต่อไป: สร้างพอร์ตโฟลิโอมืออาชีพเพื่อโชว์ภาพถ่ายที่ดีที่สุดของคุณ คุณอาจจะทำเว็บไซต์ขึ้นมาเว็บหนึ่งโดยเฉพาะ หรือใช้ Instagram ก็ได้
17. เป็นนักพากย์
งานพากย์เสียงนั้นมีตั้งแต่การเล่านิทานในหนังสือเสียง ไปจนถึงการให้เสียงตัวละครในการ์ตูน ด้วยไมโครโฟนคุณภาพดีๆ และซอฟต์แวร์ตัดต่อเสียง คุณสามารถเริ่มงานนี้จากที่บ้านได้เลย
ก้าวต่อไป: สร้างตัวอย่างและเข้าร่วมแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ เช่น Voices.com หรือ Fiverr เพื่อหางาน
18. ที่ปรึกษาออกแบบภายใน VR
ถ้าคุณมีความสามารถในการจัดระเบียบบ้านหรือการแต่งบ้าน การให้คำปรึกษาด้านการออกแบบภายในแบบเสมือนจัดว่าเป็นวิธีที่มีต้นทุนต่ำ ในการให้บริการคำปรึกษา เขียนเลย์เอาต์ รายการของที่ต้องซื้อ หรือทำแผนการรีโนเวท ลองสร้างเว็บไซต์ระดับมืออาชีพ พร้อมฟีเจอร์สำหรับลูกค้าใหม่ ที่ลูกค้าสามารถอัปโหลดข้อมูลเกี่ยวกับความท้าทายในการออกแบบของพวกเขาและขอรับบริการของคุณได้
ก้าวต่อไป: สร้างพอร์ตโฟลิโอ โดยการสร้างแนวทางการออกแบบสำหรับเพื่อนและครอบครัว จากนั้นเริ่มวางแผนสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย
19. ขายสินค้าแฮนด์เมด
ถ้าคุณเคยต้องการทำเงินจากงานอดิเรกของคุณ บอกเลยว่ามีงานฝีมือหลายอย่างที่สามารถทำและขายออนไลน์ได้นะ แม้ของแฮนด์เมดจะต้องอาศัยการสั่งสมฝีมือมาค่อนข้างนาน แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่จะทำให้คุณโดดเด่นแตกต่างจากสินค้าเจ้าอื่นๆ
ก้าวต่อไป: คิดถึงสิ่งที่คุณทำแล้วสนุกแม้จะไม่มีใครจ่ายเงินให้คุณทำก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทำงานไม้ การถักไหมพรม การวาดภาพ การทำเครื่องประดับ หรือการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ งานอดิเรกเหล่านี้สามารถเป็นพื้นฐานสำหรับงานเสริมที่ไม่เหมือนใครมากมายเลยล่ะ
งานเสริมที่ยืดหยุ่นสำหรับนักการศึกษาและนักสื่อสาร
20. สอนพิเศษแบบตัวต่อตัวหรือออนไลน์
การสอนเป็นสิ่งที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง และเพราะแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Cambly, TutorOcean, Preply, และ Learn to Be การสอนพิเศษทางออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเดิม แม้กระทั่งนักศึกษาก็เข้ามาสอนพิเศษแล้วด้วยนะ โดยจะเป็นการติวสอบและช่วยทำการบ้าน ซึ่งเป็นตลาดที่คาดว่าจะเติบโตในอัตรา 5.2% ต่อปีจนถึงปี 2032
ในการจะทำให้งานสอนพิเศษของคุณมีรายได้เสริมมากขึ้นอีกหน่อย ก็ให้ลองคิดๆ เรื่องการสร้างคอร์สออนไลน์ดู การสร้างคอร์สออนไลน์อาจต้องลงแรงมากหน่อยในช่วงแรก แต่ถ้าผ่านจุดนั้นไปได้แล้ว มันจะสามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟได้อย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว
ก้าวต่อไป: หาวิชาเรียนหรือสกิลที่คุณเชี่ยวชาญที่สุด จากนั้นก็มองหานักเรียนในแพลตฟอร์มติวเตอร์หรือตามสถาบันการศึกษาใกล้บ้าน
21. ถอดเทปหรือรับงานแปล
นักถอดเทปจะได้รับไฟล์เสียงจากลูกค้าและพิมพ์สิ่งที่พวกเขาได้ยิน ไฟล์เหล่านี้อาจเป็นคลิปวิดีโอ โน้ตเสียง เสียงอัดจากสายโทรศัพท์ หรือแม้แต่กระทั่งข้อมูลทางกฎหมายก็ได้ ดังนั้นการมีหูที่ดีและมีนิ้วที่พิมพ์ได้เร็วจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ก้าวต่อไป: ลองไปดูเว็บไซต์ฟรีแลนซ์ อาทิ Rev, TranscribeMe, และ GoTranscript สำหรับโอกาสในการทำงานเสริมด้านการถอดเสียง
22. เป็นฟิตเนสเทรนเนอร์ออนไลน์
ด้วยการออกกำลังกายที่บ้านได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น การเสนอคลาสฟิตเนสออนไลน์สามารถเป็นงานเสริมที่ทำกำไรได้ แพลตฟอร์มเช่น Zoom และ Instagram Live ทำให้การจัดเซสชันจากที่บ้านเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถเป็น อินฟลูเอ็นเซอร์ด้านฟิตเนสและสร้างแบรนด์เกี่ยวกับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี หรือแบ่งปันการออกกำลังกายของคุณกับผู้ชมกลุ่มเล็กๆ แต่ใจเกินร้อยได้นะ
ก้าวต่อไป: เสนอคลาสฟรีแบบตัวต่อตัวเพื่อสร้างการติดตาม จากนั้นเปลี่ยนไปใช้โมเดลการสมัครสมาชิกออนไลน์
งานเสริมที่ต้องลงแรงและงานใกล้บ้าน
23. ส่งพัสดุ
ถ้าคุณมีเวลาว่างและมีรถ คุณสามารถเริ่มงานเสริมในฐานะคนขับส่งของ สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับงานนี้คือการมีตารางเวลาที่ยืดหยุ่น คนขับรถส่งของส่วนใหญ่เลือกเวลาที่พวกเขาต้องการทำงานและจะได้รับงานส่งของเมื่อพวกเขาว่าง
ก้าวต่อไป: ในการเริ่มต้น ให้คุณลงทะเบียนกับบริการเช่น LINE Man
24. เป็นไรเดอร์ส่งของ
ถ้าคุณชอบแนวคิดในการขับรถเพื่อหารายได้เพิ่มเติม แต่ไม่ชอบการมีผู้โดยสาร การส่งของชำหรืออาหารก็เป็นทางเลือกที่ดี
บริการส่งอาหารได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยมีแพลตฟอร์มให้เลือกมากมาย คุณสามารถขับรถให้กับแอปที่มีชื่อเสียง เช่น Grab, LINE Man, foodpanda หรือ Robinhood ได้
ก้าวต่อไป: ลองดู Lalamove สำหรับงานส่งของดูสิ
25. ให้เช่าบ้านหรือห้องว่างของคุณ
คุณลงทุนเวลาและความพยายามในการดูแลบ้านของคุณอยู่แล้ว ทำไมไม่สร้างรายได้จากมันล่ะ? การให้เช่าบ้านหรือห้องว่างเสนอศักยภาพในการหารายได้ที่สำคัญ แพลตฟอร์มเช่น Airbnb, Booking และ Agoda ทำให้กระบวนการลงประกาศเช่าระยะสั้นง่ายขึ้น
ก้าวต่อไป: ทำให้การทำงานเสริมของคุณก้าวไปอีกขั้นโดยการขายผลิตภัณฑ์ให้กับแขกของคุณ ใช้ Shopify Collabs เพื่อรับค่าคอมมิชชันจากผลิตภัณฑ์ที่แขกของคุณอาจสนใจ ตัวอย่างเช่น ถ้าแขกชอบสบู่ในห้องน้ำของคุณ ทำไมไม่วาง QR โค้ดที่เชื่อมโยงไปยังหน้าซื้อขายโดยตรงล่ะ
26. ขับแกร๊บ
ในปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายสำหรับผู้ที่ต้องการขับรถให้กับแพลตฟอร์มไรด์แชร์ คุณสามารถขับรถให้กับบริษัทที่มีชื่อเสียง เช่น Grab หรือ LINE Man ได้นะ
ก้าวต่อไป: เลือกว่าแพลตฟอร์มไหนตรงกับตารางเวลาและประเภทของรถคุณ ถ้าคุณวางแผนที่จะลงทะเบียนกับ Grab ใ้หคุณอ่านข้อกำหนดของคนขับก่อน
27. ล้างและดูแลรถ
การล้างรถทั้งภายในและภายนอกเป็นงานที่คนส่วนใหญ่รู้วิธีทำ แต่มีไม่กี่คนที่อยากทำด้วยตัวเอง นั่นคือเหตุผลที่มันกลายเป็นงานเสริมที่ทำกำไรได้ คุณสามารถคุมต้นทุนให้ต่ำได้ เพียงแค่ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดไม่กี่อย่างที่คุณอาจมีอยู่แล้ว แพลตฟอร์มอย่าง Instawash นั้นให้บริการล้างรถถึงที่
ก้าวต่อไป: เสนอให้บริการแก่เพื่อนบ้าน เพื่อน และครอบครัวเพื่อสร้างฐานลูกค้าเริ่มต้นและรับคำแนะนำจากปากต่อปาก
28. ตัดหญ้าและทำงานจัดสวนอื่นๆ
การเริ่มบริการดูแลสนามหญ้าอาจดูน่ากลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความท้าทายในการหาลูกค้า อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มเช่น TaskEasy และ TaskRabbit ก็มีงานดูแลสนามหญ้าและจัดสวนระยะสั้นมากมาย งานเหล่านี้เหมาะสำหรับการทำในเวลาว่างและเป็นงานเสริมที่ดีสำหรับผู้ที่ชอบทำงานกลางแจ้ง
ก้าวต่อไป: เริ่มต้นเล็กๆ ก่อน โดยรับงานที่คุณสามารถจัดการได้ในเวลาว่างของคุณ เมื่อประสบการณ์และฐานลูกค้าของคุณเติบโตขึ้น ให้พิจารณาลงทุนในอุปกรณ์ดูแลสนามหญ้าที่มีคุณภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
29. จัดทัวร์ในละแวกใกล้เคียง
การศึกษาจาก Eventbrite แสดงให้เห็นว่า 78% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลชอบใช้จ่ายเงินเพื่อประสบการณ์มากกว่าสินค้า แพลตฟอร์มเช่น Showaround และ Airbnb Experiences สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการทัวร์ในละแวกใกล้เคียงที่ดีได้
ก้าวต่อไป: ทำความคุ้นเคยกับแง่มุมที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ในย่ายของคุณ จัดทำแผนการทัวร์ที่รวมไฮไลท์เหล่านั้นเอาไว้ และลองหาเรื่องราวหรือเกร็ดน่ารู้ต่างๆ ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน แต่คุณสามารถเล่าให้แขกฟังได้
30. ให้บริการดูแลสัตว์เลี้ยงและพาสุนัขเดินเล่น
ผู้คนมักมองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว ซึ่งหมายความว่าพวกเขายินดีจ่ายเงินให้กับมืออาชีพที่เชื่อถือได้ในการดูแลสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ในอดีต การหาลูกค้าเป็นส่วนที่ยากที่สุดในการเป็นคนเดินสุนัขหรือผู้ดูแลสัตว์เลี้ยง แต่ด้วยแอปเช่น Rover, Wag!, PetSitter.com และ PetBacker การหาเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่กำลังต้องการความช่วยเหลือนั้นเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด
ก้าวต่อไป: พอคุณเริ่มมีลูกค้าประจำจำนวนหนึ่งแล้ว ก้ให้ขยายงานเสริมของคุณให้เป็นธุรกิจสัตว์เลี้ยง และจัดหาผลิตภัณฑ์เพื่อขายให้กับลูกค้า
วิธีการเลือกงานเสริม
ถ้าคุณมุ่งมั่นกับงานเสริม มันสามารถกลายเป็นอาชีพที่ทำกำไรได้เต็มเวลา
เพื่อดูว่างานเสริมใดเหมาะกับคุณในระยะยาว ให้พิจารณาว่ามันตรงกับความสนใจของคุณมากน้อยเพียงใด มันส่งผลต่อการเงินของคุณอย่างไร และมันทำงานร่วมกับตารางเวลาของคุณได้หรือไม่
งานเสริมตรงกับความสนใจของคุณหรือไม่
หลังจากวันทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อย คุณจะต้องใช้พลังงานเพิ่มเติมในการมุ่งเน้นไปที่โครงการเสริม วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างความพยายามที่จำเป็นสำหรับงานเสริมคือการเลือกธุรกิจที่คุณหลงใหล
บางทีคุณอาจสนใจในช่องเฉพาะ เช่น ผลิตภัณฑ์การทำสวน หรืออาจเป็นโมเดลธุรกิจที่ทำให้คุณตื่นเต้น เช่น การสร้างเนื้อหาในโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าคุณจะเลือกอะไร ให้มองหาสิ่งที่จะช่วยให้คุณเปลี่ยนการไถดูข่าวสารที่น่าหดหู่ ให้เป็นการทำงานเสริมได้นะ
งานเสริมมีความสามารถในการทำกำไรหรือไม่
เช่นเดียวกับธุรกิจใดๆ คุณอาจต้องใช้เวลาบางส่วนในการทำงานเสริมของคุณก่อนที่จะเริ่มสร้างรายได้ ในช่วงแรกให้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความต้องการสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณเพื่อขายออร์เดอร์ครั้งแรกให้ได้
เมื่อคุณมีความก้าวหน้าบ้างแล้ว ให้ถอยกลับและประเมินความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าความพยายามของคุณคุ้มค่ากับผลตอบแทนหรือไม่
งานเสริมเข้ากับตารางเวลาของคุณหรือไม่
เมื่อการทำงาน ครอบครัว และความรับผิดชอบในชีวิตประจำวันทำให้สัปดาห์ของคุณเต็มไปหมด การหาช่วงเวลาสำหรับงานเสริมอาจเป็นเรื่องยาก ถ้าตารางของคุณแน่นอยู่แล้ว ให้เลือกโมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่นที่ให้คุณแบ่งงานออกเป็นชิ้นเล็กๆ ที่จัดการได้และทำให้เสร็จในช่วงเวลาว่าง
พาสซีฟหรือลงแรง คุณชอบงานแบบไหนมากกว่ากัน
งานเสริมแต่ละประเภทต้องการระดับการลงแรงที่แตกต่างกัน และแม้แต่ไอเดียการสร้างรายได้แบบพาสซีฟ ก็ต้องใช้ความพยายามในการเริ่มต้น
ตัวอย่างเช่น การตั้งค่าเว็บไซต์การตลาดผ่านตัวแทนสินค้าและบริการอาจต้องลงแรงมากหน่อย แต่ต้องการการจัดการก็จะน้อยลงเรื่อยๆ ในแต่ละวัน เมื่อเปรียบเทียบกับงานที่ต้องมีการดูแลอย่างเช่นการดูแลสัตว์เลี้ยง
คุณควรตัดสินใจว่าคุณต้องการงานเสริมที่ต้องการความสนใจของคุณตลอดเวลา หรืองานที่สามารถทำเป็นช่วงๆ ได้
วิธีเริ่มทำงานเสริมในขณะที่ทำงานประจำ
งานเสริมเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการหารายได้เพิ่มเติม แต่เช่นเดียวกับการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ทั้งหมด มันต้องการการทำงานล่วงหน้าเพื่อให้ได้ผล ถ้าคุณไม่เลือกแนวคิดที่เหมาะกับวิถีชีวิตของคุณ โดยเฉพาะเมื่อมีงานประจำอยู่แล้ว งานเสริมนี้อาจจมอยู่ที่แถวล่างสุดของทูดูลิสต์ และในที่สุดก็จะถูกเทไป
งานเสริมที่ขัดแย้งกับงานของคุณและกินเวลาในการเข้าสังคมมักจะไม่ยั่งยืน ดังนั้น คุณจึงควรปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้เพื่อให้คุณมีโอกาสดีที่สุดในการทำงานเสริมของคุณให้สำเร็จ
เคารพตารางเวลาของคุณ
สำรวจงานเสริมที่ลงตัวกับตารางเวลาของคุณพอดี ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณพบว่าคุณมีช่วงเวลาว่างในตอนเย็น งานเสริมที่สามารถทำได้ทั้งหมดออนไลน์ เช่น การเขียนฟรีแลนซ์หรือการออกแบบกราฟิก อาจเหมาะสมที่สุด
มองหาช่วงเวลาที่คุณไม่ค่อยได้ใช้ให้คุ้มคา บางทีคุณอาจสามารถทำงานเสริมในช่วงพักกลางวันหรือในขณะที่เดินทางโดยขนส่งสาธารณะก็ได้
วางแผนบนฐานของความจริง
เมื่อคุณเลือกงานเสริมแล้ว ให้ร่างสิ่งที่คุณต้องการเพื่อเริ่มต้น ซึ่งอาจรวมถึงการจัดพื้นที่ทำงาน การซื้ออุปกรณ์ หรือการสร้างเครือข่ายเพื่อหาลูกค้า
ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและสามารถทำได้
การมีเป้าหมายที่วัดได้สำหรับงานเสริมของคุณจะช่วยให้คุณไม่หลงทางและมีแรงจูงใจ แทนที่จะตั้งเป้าไว้แบบหว้างๆ ก็ให้ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงเข้าวไว้ เช่น การได้ลูกค้าเฉพาะจำนวนหนึ่งหรือการทำคอนเทนต์จำนวนหนึ่งในไตรมาสหนึ่งๆ
ทำให้เป็นอัตโนมัติและมอบหมายงาน
ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วย AI, เครื่องมือ SEO หรือการจ่ายงานกับฟรีแลนซ์ ให้คุณมองหาวิธีการทำงานแบบอัตโนมัติเพื่อทำให้การจัดการงานเสริมของคุณง่ายขึ้น เป้าหมายคือการลดเวลาที่คุณใช้ไปกับงานด้านบริหารหรือซ้ำซาก เพื่อให้มีเวลามากขึ้นสำหรับงานที่แท้จริง
ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนา (หรือไม่พัฒนา)
บางครั้งมันช่วยให้ตัดสินใจตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าคุณต้องการให้งานเสริมของคุณยังคงเป็นเพียงแค่นั้น หรือถ้าคุณต้องการ เปลี่ยนมันให้เป็นธุรกิจเต็มเวลา การตัดสินใจนี้จะมีอิทธิพลต่อระยะเวลาที่คุณลงทุนและแนวทางการวางแผนเชิงกลยุทธ์ของคุณ
งานเสริมที่ควรหลีกเลี่ยง
อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยโฆษณาที่สัญญาว่าจะได้เงินง่ายและอินฟลูเอ็นเซอร์ที่โปรโมทแผนรวยเร็ว คุณควรหลีกเลี่ยงงานเสริมใดๆ ที่ดำเนินการในรูปแบบ “จ่ายเพื่อเล่น” ซึ่งคุณจะต้องลงทุนเงินล่วงหน้าพร้อมสัญญาว่าจะได้รับผลตอบแทนในอนาคต โอกาสเหล่านี้มักจะกลายเป็นการใช้เวลาที่ไม่คุ้มค่า สูญเสียเงิน หรือถูกหลอก
ด้านล่างนี้คือลักษณะงานเสริมที่ควรเลี่ยง
- งานจ่ายเพื่อเล่น: งานเหล่านี้ต้องให้คุณซื้อ “โอกาส” ก่อนที่คุณจะเริ่มทำเงิน
- แผนการตลาดขายตรงแบบลูกโซ่: MLM ต้องพึ่งพาความสามารถของคุณในการสรรหาคนอื่นเพื่อให้เห็นผลตอบแทน
- การทำแบบสำรวจที่ใช้เวลานาน: แพลตฟอร์มสำรวจบางแห่งเสนอค่าตอบแทนที่น้อยมากสำหรับเวลาที่ใช้ไป
- งานฝีมือที่ไม่สามารถขยายได้: งานฝีมือบางอย่างใช้เวลาทำนาน แต่กลับไม่ขายได้ราคา ทำให้กำไรของคุณถูกจำกัด
- กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย: การมีส่วนร่วมในสิ่งเหล่านี้อาจทำให้ชื่อเสียงของคุณเสียหายกับผู้บริโภค
- การซื้อขายแบบเก็งกำไร: หลีกเลี่ยงการซื้อขายที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งทำให้การลงทุนหลักของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง
- การฝึกงาน: ให้คุณมองว่าการฝึกงานเป็นการทำงานเพื่ออาชีพในระยะยาว มากกว่าเป็นงานเสริม
- งานเสริมที่ต้องเดินทางมาก: ค่าใช้จ่ายในการเชื้อเพลิงและที่พักอาจเกินกว่ารายได้ของคุณได้อย่างรวดเร็ว
- งานกรอกข้อมูลที่น่าเบื่อ: งานเหล่านี้มักเสนอค่าจ้างต่ำสำหรับงานที่ซ้ำซากและใช้เวลานาน
งานเสริมจะพาคุณไปทิศทางไหน
งานเสริมเป็นวิธีที่ดีในการหารายได้เพิ่มเติม แต่ยังช่วยให้คุณลองทำธุรกิจใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กับการพัฒนาทักษะและหาประสบการณ์ สิ่งที่เริ่มต้นเป็นงานพาร์ทไทม์ก็สามารถพัฒนาไปสู่การเป็นอาชีพที่ทำกำไรได้
ไม่ว่าจะเป็นการพาสุนัขเดินเล่น ส่งอาหาร หรือขายของออนไลน์ งานเสริมคือก้าวแรกสู่ความเป็นอิสระทางการเงิน เริ่มงานเสริมของคุณกับ Shopify
ภาพประกอบโดย Eugenia Mello
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับงานเสริม
จะทำเงินเพิ่มอีก 5,000 บาทต่อเดือนได้อย่างไร
เงินที่คุณทำได้จากงานเสริมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แม้ว่าไอเดียต่อไปนี้จะเป็นไอเดียเริ่มต้นที่น่าสนใจ แต่ระดับความเหนื่อย ความต้องการของงาน และตลาดที่คุณอยู่สามารถมีอิทธิพลต่อจำนวนเงินที่คุณจะได้รับจากงานเสริมได้ ลองทำเสริมเหล่านี้ดู
- เข้าร่วมกลุ่มโฟกัส
- เริ่มบริการพาสุนัขเดินเล่น
- นำเสนอบริการต่างๆ ในกับธุรกิจในละแวกบ้าน
- เป็นไรเดอร์แอปส่งอาหาร
- ให้เช่ารถของคุณ
- สอนภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่นๆ
- เริ่มธุรกิจบัญชี
- สร้างรายได้จากบัญชี TikTok ดังๆ
จะเริ่มงานเสริมได้ยังไง
ขั้นตอนในการเริ่มต้นงานเสริมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับทักษะสร้างสรรค์ ต้นทุนเริ่มต้น และระดับความพยายามสำหรับงานเสริมที่คุณเลือก แต่ขั้นตอนหลักๆ ก็จะมีประมาณนี้
เขียนสิ่งที่คุณชอบทำออกมาพิจารณาว่าคุณจะลงทุนเงินในงานเสริมของคุณทันทีหรือไม่จัดเวลาในตารางของคุณเพื่อทำงานเสริมสร้างแผนในการทำเงินออนไลน์จากงานเสริมของคุณดำเนินการตามแผนของคุณงานเสริมที่ทำกำไรได้มากที่สุดคืองานไหน
หลังจากการลงทุนเวลาและความพยายามเบื้องต้นแล้ว บางไอเดียก็สามารถทำให้คุณมีรายได้ต่อเดือนที่ดีได้ ไอเดียงานเสริมที่มักทำรายได้ได้ดีก็อย่างเช่น
- ธุรกิจดรอปชิป
- ขายผลิตภัณฑ์ทำมือของคุณเอง
- สร้างและขายการออกแบบของคุณเอง
- ขายบริการการตลาดดิจิทัลผ่านการทำงานฟรีแลนซ์
- สอนคอร์สออนไลน์
- เริ่มธุรกิจการตลาดแบบพันธมิตร
งานเสริมที่เริ่มต้นง่ายที่สุดคืองานอะไร
งานเสริมที่เริ่มต้นได้ง่ายที่สุดคือสิ่งที่ไม่ต้องการทักษะเฉพาะหรือค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ในขณะที่หลายคนหันไปหางานในระบบเศรษฐกิจแบบกิ๊ก (gig) เพื่อเสนอบริการผ่านเว็บไซต์เช่น TaskRabbit หรือขับรถแบบไรด์แชร์ คุณสามารถตั้งค่าเว็บไซต์ง่ายๆ เพื่อช่วยให้คุณหางานฟรีแลนซ์หรือนำเสนอบริการของคุณได้เช่นกัน
จะหาลูกค้างานเสริมได้ที่ไหน
กลยุทธ์ในการหาลูกค้าจะแตกต่างกันไปตามประเภทธุรกิจ งานเสริมด้านอีคอมเมิร์ซมักใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากในราคาที่เหมาะสม การตลาดแบบปากต่อปาก การโฆษณาในย่านใกล้ๆ และการเข้าร่วมฟอรั่มออนไลน์ที่เกี่ยวข้องนับเป็นวิธีดึงดูดลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ ส่วนงานเสริมที่แบ่งตามบริการที่คุณมอบ แพลตฟอร์มเช่น Upwork และ Thumbtack นั้นสามารถเชื่อมต่อคุณกับลูกค้าที่มีศักยภาพได้
จะทำเงินจากงานเสริมได้มากแค่ไหน
รายได้จากงานเสริมจะแตกต่างกันไปตามประเภทกิจกรรม เวลาที่ลงทุน และระดับความเชี่ยวชาญ ตัวอย่างเช่น งานในระบบเศรษฐกิจแบบกิ๊ก เช่น บริการส่งของ สามารถทำให้คุณมีรายได้หลายพันถึงหลายหมื่นบาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับเวลาที่ลงทุน งานเสริมเฉพาะทาง เช่น การพัฒนาเว็บไซต์หรือการเป็นโค้ชส่วนตัวด้านการพัฒนาตัวเองอาจสร้างรายได้ที่สูงกว่ามาก ชนิดที่อาจเท่ากับรายได้จากงานประจำ
ทักษะที่คนทำงานเสริมต้องมีคืออะไร
คนทำงานเสริมมักมีความสามารถในการปรับตัว มีแรงจูงใจในตัวเอง และมีความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพและจัดลำดับความสำคัญของงานเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากคนทำงานเสริมหลายคนต้องบาลานซ์ความรับผิดชอบหลายอย่าง ทักษะด้านการตลาดดิจิทัล การพัฒนาซอฟต์แวร์ การเขียนสร้างสรรค์ และการออกแบบกราฟิกเป็นทักษะที่พบได้บ่อยในหมู่คนทำงานเสริม โดยทั่วไปแล้ว คนทำงานเสริมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคือผู้ที่เรียนรู้ต่อเนื่องและปรับตัวตามแนวโน้มของตลาด
ควรใช้เวลาเท่าไหร่ในการทำงานเสริม เพื่อให้ประสบความสำเร็จ
แนะนำให้จัดสรรเวลาสักไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่อทำงานเสริมของคุณ การจัดลำดับความสำคัญของเวลาของคุณและมุ่งเน้นไปที่งานที่สำคัญที่สุดเพื่อเติบโตธุรกิจของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยความมุ่งมั่นและการทำงานหนัก คุณสามารถเปลี่ยนงานเสริมของคุณให้เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและทำเงินเพิ่มเติมได้เลย